จ่าทหารเรือ หัวใจงามรุดช่วย หญิงเคราะห์ร้าย ขณะถูกปล้นบนสะพานลอย

จ่าทหารเรือ หัวใจงามรุดช่วย หญิงเคราะห์ร้าย ขณะถูกปล้นบนสะพานลอย

จ่าทหารเรือ หัวใจงามรุดช่วย หญิงเคราะห์ร้าย ถูกชิงทรัพย์ได้รับบาดเจ็บบนสะพานลอย ก่อนทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้โดยละม่อม เพจโฆษกกองทัพเรือ เผยแพร่วีรกรรม จ่าเอก อริย น้อยมี จ่าพยาบาล สังกัดเรือหลวงท่าดินแดง กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ เข้าช่วย หญิงเคราะห์ร้าย ซึ่งถูกคนร้ายปล้นชิงทองและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ขณะข้ามสะพานลอย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้ากรมแพทย์ทหารเรือ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพ ฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน จ่าเอก อริย ยังได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ทันท่วงที 

พร้อมทั้งประสานศูนย์กู้ชีพ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ ปฐมพยาบาล หญิงเคราะห์ร้ายในเบื้องต้นและส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล สมเด็จพระปิ่นเกล้าได้อย่างทันท่วงที สำหรับ จ่าเอกอริย ปัจจุบันอายุ 25 ปี เป็นจ่า พยาบาล สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรมแพทย์ทหารเรือ ปัจจุบันเป็นจ่าพยาบาล สังกัด เรือหลวงท่าดินแดง กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ

พี่ชายไปพบร่างกายน้องชายซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์การแพทย์ มือถูกมัดติดเตียงเพราะอาการชักเกร็ง ร่างกายมีรอยฝกช้ำตามแขน ขา และบริเวณหน้าอก

วันต่อมา (29 พ.ค.) หมอแจ้งพบอาการปอดติดเชื้อ น้ำท่วมปอด แย่ไปกว่านั้นเซลล์สมองตาย ไม่สามารกลับมาเป็นปกติได้

จากนั้นพี่ชายพบข้อความในแชทไลน์ “ที่น้องโดน เพราะน้องไม่ช่วยน้องนายกตอบครับพี่ ที่พวกผมทำไปเพราะผมอยากให้น้องช่วยๆ กันครับ น้องไม่ได้โดนเพราะความสะใจครับพี่”

31 พ.ค. หมอได้นัดพี่และแม่ แจ้งอาการเพิ่มเติมพบ โรคหัวใจบวม กระทั่งทราบจากเพื่อนว่า โดนเตะที่หน้าอก รุ่นพี่เป็นคนทำ โดยขณะนั้นในกรุ๊ปไลน์มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ

แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ให้ไปหาหลักฐานเพิ่ม จนมีกลุ่มที่กระทำแสดงตน ร้อยเวรถามใครเตะ แต่ทั้งหมดบ่ายเบี่ยง

ขณะเดียวกันได้ส่งตัวผู้เสียชีวิตตรวจร่างกายกับนิติเวช ทว่าต่อมาหมอนิติเวชติดเชื้อโควิด-19 จึงไม่สามารถตรวจได้

หลังรักษาตัวอยู่ 5 วัน ประกันสังคมติดต่อแจ้งให้ย้ายโรงพยาบาลมาที่ โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ขั้นตอนดังกล่าวใช้เวลาตั้งแต่ บ่ายโมง – 2 ทุ่ม เมื่อได้เตียงจึงตรวจอาการใหม่ พบทรุดหนักมาก และมาช้าเกินไป

ตั๋วช้าง เป็นเหตุ รังสิมันต์ โรม แฉถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ 2 ครั้งซ้อน

ส.ส. รังสิมันต์ โรม  ของพรรคก้าวไกล แฉถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ต้นเหตุเกิดจากครั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง ตั๋วช้าง

รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ตั้งโต๊ะแถลง ถูกเจ้าหน้าที่รัฐยศสูง คุกคาม ต้นเหตุเกิดจากครั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องตั๋วช้าง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

รังสิมันต์ โรม ให้ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของตัวเอง Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม ระบุ ตนเองและภรรยา ถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ชายไม่ทราบชื่อ 2 คน อ้างเป็นเพื่อนของภรรยา พยายามขับรถยนตร์เข้ามายังที่พักอาศัยของตน โดยที่ตัว รังสิมันต์ โรม และภรรยาไม่ได้รู้จักกับบุคคลทั้งสองแต่อย่างใด

เหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้นวันที่ 28 พ.ค. 2564 มีผู้ติดต่อเข้ามายังโทรศัพท์ของภรรยา ด้วยหมายเลข 094-9413723 สอบถามว่าปลายสายคือภรรยาของตนเองใช่หรือไม่ จากนั้นไม่พูดอะไรแล้ววางสายไป

อย่างไรก็ตาม ส.ส. พรรค ก้าวไกล ผู้เคยอภิปรายเรื่อง ตั๋วช้าง จนเป็นกระแสครึกโครมสะเทือนวงการสีกากีไทย ได้สืบหาข้อมูลจนทราบว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว เคยมีผู้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้ว่า “พี่แม้ว ส น”

นอกจากนี้ รังสิมันต์ โรม ยังเผยว่า จากการสืบทราบข้อมูลเชิงลึก ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกรณีนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐยศสูง มีส่วนได้ส่วนเสียกับการอภิปรายเรื่อง ตั๋วช้าง ซึ่งเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา

แม้จะถูกคุกคามถึง 2 ครั้งสองครา แต่ ส.ส. รังสิมันต์ โรม ยังย้ำจุดยืน ถึงผู้ที่มุ่งคุกคามตนและครอบครัว ว่าผู้ที่กระทำการดังกล่าวจะไม่ได้รับความหวาดกลัวจากตน แต่จะได้การทำหน้าที่ที่มีการตรวจสอบที่มากกว่าเดิมเป็นการตอบแทน

หลังพบความสูญเสีย พี่ชายและแม่ เรียกร้องสถาบันออกมารับผิดชอบ นอกจากนี้พี่ชายยังโพสต์เฟซบุ๊กอธิบายรายละเอียทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมกับคลิปวงจรปิด ขณะตอนที่น้องชายอยู่ในสภาพหมดสติถูกหามลงมาจากอาคารคณะที่เรียน เพื่อนำตัวส่ง รพ.

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร