ศาลอาญา เตือน จนท.ราชทัณฑ์ ให้ระมัดระวัง หลังจากที่ ทนายอานนท์ เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ หลัง จนท. ตรวจโควิดแกนนำราษฎรกลางดึก ศาลอาญารัชดา ได้ออกเตือนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ถึงกรณีที่ ทนายอานนท์ หรือ นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎรได้เขียนจดหมายแสดงความกังวลว่าอาจได้รับอันตราย หลังจากที่ตน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และนายจตุภัทร บุญรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ถูกเรียกตัวไปตรวจโควิดกลางดึก ระหว่างถูกคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยศาลเห็นว่า แม้ไม่ถึงขนาดเป็นการล่วงละเมิดต่อกฎหมาย
แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ มีการกระทำที่ไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชนที่นานาอารยะประเทศให้การรับรองและคุ้มครอง ซึ่งทางศาลชี้ว่า กรณีนี้จึงยังไม่ปรากฏเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรีบ หรือเร่งด่วนถึงขนาดต้องดำเนินการแยกตัวผู้ร้องกับพวกออกจากผู้ต้องขังอื่น หรือเร่งตรวจหาเชื้อไวรัสให้แล้วเสร็จภายในคืนนั้น หากปล่อยให้ระยะเวลาผ่านพ้นไปอีก 3 ชั่วโมงก็จะถึงรุ่งเช้า ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาปกติที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่กระทบต่อการพักผ่อนของผู้ต้องขัง
การดำเนินการตรวจร่างกายผู้ต้องขัง หรือย้ายสถานที่คุมขัง หรือกระทำการใดใด กรมราชทัณฑ์ จึงต้องดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม สมควร เป็นไปตามระเบียบและแนวทางปฏิบัติ ที่ไม่กระทบกระเทือน ต่อสิทธิขั้นพื้นฐานในการใช้ชีวิตของผู้ต้องขัง
ศาลจึงเห็นว่า การดำเนินงานของเจ้าพนักงานเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังอันกระทบต่อสิทธิ์ของผู้ร้องกับพวกเท่าที่ควร และเห็นว่าควรให้เจ้าพนักงานเรือนจำที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่โดยใช้ความระมัดระวัง เพื่อให้ผู้ร้องกับพวก ได้รับการคุ้มครองตามสิทธิที่กฎหมายรับรอง
พรุ่งนี้บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ทำงานตำรวจวันแรก เข้ารายงานตัว ผบ.ตร. หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ย้ายบิ๊กโจ๊กกลับไปตำแหน่ง ที่ปรึกษา สบ 9 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้ความคือ ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ตำแหน่งที่ปรึกษา สบ 9 ดังกล่าว เทียบชั้นได้กับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.
ล่าสุดผู้สื่อข่าว รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ 30 มี.ค. 2564 บิ๊กโจ๊กจะเข้าทำงานวันแรกในฐานะตำรวจอีกครั้ง โดยจะไปรายงานตัวกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องมาลุ้นกันว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ จะมอบหมายงานอะไรให้บิ๊กโจ๊กทำ
ประยุทธ์ ถามสนับสนุน ‘เมียนมา’ ตรงไหน?
ประยุทธ์ งง ถามกลับสนับสนุน เมียนมา ตรงไหน? ยืนยันไม่สนับสนุนให้มีความรุนแรงกับประชาชน พร้อมดูแลในเรื่องของสิทธิมนุษยชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ นโยบายของไทยในการดูแลผู้อพยพชาวเมียนมา รวมถึงกรณีที่การเผยแพร่ภาพที่ระบุว่า หากมีแกนนำของเมียนมาเข้ามาในพื้นที่ไทยแล้วจับกุม เพื่อส่งคืนให้ทางการเมียนมา
ซึ่งนายกฯกล่าวว่า เรื่องนี้ไทยทราบถึงปัญหาในเมียนมา ซึ่งมีการพิจารณาอยู่ โดยขอให้เป็นเรื่องภายในของเราไปก่อน เพราะไม่อยากให้มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่ของเรา แต่ก็ต้องดูแลในเรื่องของสิทธิมนุษยชน จึงขอให้ระมัดระวังด้วย
ในส่วนการส่งตัวแทนเข้าร่วมการงานเฉลิมฉลองวันกองทัพเมียนมาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นช่องทางทางการทหารที่เราจำเป็นต้องติดตาม และต้องหากลไกต่างๆที่สามารถติดตามในเรื่องพัฒนาการทางการเมืองในเมียนมาและความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เราเป็นประเทศที่มีดินแดนติดกันก็ต้องมีผลกระทบ เมื่อมีการสู้รบก็ต้องมีการอพยพ ดังนั้นเราต้องเตรียมแก้ปัญหาตรงนี้ โดยเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในชั้นต้นของเราก่อน และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ต้องว่ากันอีกครั้ง
คาดการณ์ตัวเลขของผู้อพยพและการเตรียมการรองรับนั้น เราก็ต้องเตรียมพื้นที่ไว้ ส่วนจะอยู่ตรงไหนหรือจะมากน้อยเพียงใดก็ค่อยว่ากันอีกที ขออย่าเพิ่งพูดไปถึงการจัดสถานที่พักพิงหรือศูนย์อพยพ ยังไม่พูดตรงนั้น เพราะวันนี้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องจัดเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว
โดยผู้สื่อข่าวได้ถามนายกฯถึงประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 400 ศพ นับตั้งแต่การชุมนุมที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นั้น ทางการไทยจะกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างไร ในการทำงานตามแนวชายแดนให้รอบคอบ เพราะหลายกรณีถูกเชื่อมโยงว่าไทยสนับสนุนทหารเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทราบดีและติดตามทุกวัน
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานมาโดยตลอด ฝ่ายความมั่นคงก็รายงานขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ไทยสนับสนุนทหารเมียนมาตรงไหน ตนไม่เข้าใจ เพราะคงไม่มีใครที่จะไปสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน
อย่างไรก็ตามจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนนั้ทำให้ออกมาขณะกองทัพนานาชาติ 12 ชาติมหาอำนาจ ประณามกองทัพเมียนมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ยังมีการค้าขายกันอยู่ตามปกติ ซึ่งต้องดูคนที่อยู่ในวงจรเหล่านี้ด้วย ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชนคนไทยและเมียนมา ที่ต้องอยู่ต้องกิน รวมทั้งสินค้าก็ยังมีความต้องการอยู่ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการอาเซียน หรือประชาคมอื่นๆ โดยย้ำว่าต้องระมัดระวังอย่างที่สุด
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร